/MV baby goodnight/

/MV baby goodnight/

เป็นเพลงเกาหลีที่เราตีความหมายของเพลงจากการดูmvและคำภาษาอังกฤษบางคำแล้ว เราเข้าใจว่า
เนื้อเพลงบอกประมาณว่ายังไม่อยากลาจากจากอีกฝ่ายเลย แต่มันก็คงถึงเวลาแล้ว และก็เอาแต่คิดถึง
ใครคนนั้นตลอดทั้งคืน mvนี้จะตัดภาพสลับไปมาหลายครั้ง เพราะมี 2คู่ แล้วใน1คู่ก็ตัดสลับกันอีก 
เราชอบmvเพลงเกาหลีเพราะมันจะมีpropประกอบฉากเยอะ ทำให้มันดูมีvalueมากขึ้น และที่่เรา
ยกmvเพลงนี้มาวิเคราะห์เพราะในmvนี้มันมีการแทนสัญลักษณ์ต่างๆและการตัดภาพไปมาให้เรา
ได้สนุกกับการตีความเยอะ เราชอบนักร้องวงนี้เป็นการส่วนตัวด้วย

ในmvเน้นสีสลัวๆ เหมือนถูกย้อมด้วยสีที่ออกเหลืองๆหน่อย มืดๆแลดูไม่ชัดเจน มีการใช้extreme

close up, insert ,full shotตัดสลับไปมาด้วย เช่นตอนที่เป็นextreme close upปากของTOP และตัด

มาเป็น insertผลทับทิมที่ถูกแบ่งออก และก็ตัดไปเป็นfull shotเป็นTOPที่นั่งจับปากของตัวเองอยู่

ตอนที่GDเอาเสื้อห่มให้ผู้หญิง ไม่จำเป็นต้องถอดออกมาจากตัวก็รู้ว่าเป็นเสื้อที่GDถอดมาห่มให้

เพราะมีการฉายภาพแบบfull shotทำให้เห็นกางเกงของGDที่มีลายและpatternเดียวกับเสื้อสูทที่

กำลังใช้ห่มให้หญิงสาวที่นอนตักอยู่(ปกติแล้วเสื้อสูทกับกางเกงที่ลายเดียวกันก็ต้องใส่คู่กันอยู่แล้ว)

เราชอบฉากที่ผู้หญิงกำลังเช็ดขาตัวเองอยู่และพลางก็ค่อยๆกลายเป็นฝ่ายชายที่กำลังเช็ดขวด

champianอยู่ แล้วก็ฉากที่จงใจทำเหมือนว่ากำลังจะจูบกันเพราะถ่ายแบบextreme close up

หน้าฝ่ายชายค่อยๆเลื่อนจากข้างframeเข้ามาหาฝ่ายหญิง และสายตาที่มองปากของอีกฝ่าย

แต่พอตัดมาเป็นแค่close up shotธรรมดาก็จะเห็นว่าฝ่ายชายกำลังเช็ดวิปปิ้ครีมที่เปื้อนปาก

ฝ่ายหญิงอยู่

เรารู้สึกว่าmvนี้มันsexyโดยที่ไม่ได้โชว์อะไรที่เรียกว่าโป๊เลย แต่มีแค่สัญลักษณ์แทน เช่น

งูเหลือม(หรือหลามไม่แน่ใจ)ที่น่าจะเอามาแทนเรื่องsex ความปราถนาที่มีต่อผู้หญิงที่

กำลังคิดถึงจนนอนไม่หลับ เป็นmvที่ลำดับภาพได้ดีมากสำหรับเราอันนึงเลย แค่ถ่ายcropบางส่วนแล้วตัดภาพไปมาก็ดูsexyแล้ว

/Malavita/

/Malavita/

เป็นหนังเกี่ยวกับครอบครัวนึงที่คนเป็นพ่อเป็นอดีตมาเฟีย ซึ่งถูกหมายหัวจากมาเฟียใหญ่ที่อยู่ในคุก

ครอบครัวนี้มีสมาชิกทั้งหมด 4คน กับอีก 1ตัว ผู้เป็นพ่อต้องการล้างมือจากวงการมาเฟีย จึงได้มี

มาเฟียตามมาเอาชีวิตถึงที่อยู่บ่อยครั้ง ทำให้เขาต้องพาครอบครัวย้ายที่อยู่ใหม่ มาอยู่ในเมืองนึง

ของฝรั่งเศษ คนเป็นแม่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแต่แอบโหดมากๆ เป็นพวกพูดน้อยๆ แต่ถ้าไม่พอใจ

ขึ้นมาก็ลงมือเลย ลูกสาวคนโตเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ดูเด็กเรียนๆแต่ก็โหดมากกับคนที่เข้ามาหา

เพราะหวังอะไรไม่ดีจากเธอ เธอตกหลุมรักครูฝึกสอนวิชาคณิตศาสตร์เอามากๆถึงขั้นยอมให้

ครูคนนั้นทุกอย่าง น้องชายคนเล็กก็จะปากไม่ค่อยดีพูดคำหยาบคาย กวนนิดๆ เพราะพึ่งมาจาก

เมืองBrooklynจึงยังติดนิสัยของเพื่อนที่นั่นมา ส่วนเจ้าหมาน้อยสมาชิกตัวที่5จะคอยไปไหน

มาไหนกับผู้เป็นพ่อตลอด ตอนสุดท้ายครอบครัวนี้ก็โดนศัตรูพบจนได้ แต่ก็ช่วยกันจนรอดมาได้

เรื่องนี้เป็นหนังแนวaction-comedy ซึ่งจะมีทั้งmedium shotที่จะให้เห็นทั้งบรรยากาศคร่าวๆ

โดยรอบ และเห็นสีหน้าของตัวละคร เช่น ในฉากทานข้าวกันที่จะเห็นตัวละครทั้ง4อยู่รอบ

โต๊ะอาหาร แต่ก็ยังเห็นสีหน้าที่แต่ละคนแสดงออกมา และ full shot ที่ส่วนใหญ่จะปรากฎใน

ฉากที่เป็นactionหน่อย เช่นตอนที่แม่ไปซื้อของในsupermarketแล้วถามหาเนยถั่ว ซึ่งเป็น

เรื่องปกติมากในอเมริกา แต่กลับถูกดูถูกและหัวเราะเยาะจากคนฝรั่งเศษ แม่จึงวางระเบิด

ที่ร้านนั้น ในฉากก็จะเห็นว่าแม่เดินนิ่งๆหันหลังไม่สนใจร้านที่ไฟท่วม และก็จะคนอื่นๆที่

วิ่งเข้ามาเห็นเหตุการณ์ด้วย เรื่องsoundของหนังเรื่องนี้เราว่ายังธรรมดาทั่วไปไม่โดดเด่น

ด้วยความที่เราชอบดูหนังแนวaction-comedyอยู่แล้วจึงชอบเรื่องนี้ แต่ว่าโดยรวมๆแล้ว

เนื้อเรื่องก็ยังคงธรรมดาอยู่ จบง่ายไปนิดนึง แต่ก็ถือว่าโอเคhappy ending

/MV เจ็บ...และชินไปเอง/

/MV เจ็บ...และชินไปเอง/

เนื้อหาเพลงบอกเล่าเกี่ยวกับคนที่เคยรักกันที่วันนึงต้องเลิกรากันไป เพลงนี้จะพูดในมุมของคนที่โดน
บอกเลิก และยังฝังใจกับความเจ็บปวดครั้งนี้อยู่ ที่ไม่สามารถให้รักนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง ก็ได้แค่คิดว่าเรื่อง
ของการเลิกรายังไงก็ต้องเกิดขึ้นสักวันนึงและคงทำได้แค่คิดถึงเรื่องราวดีๆที่เคยได้ทำร่วมกับคนที่รัก

mvเพลงนี้ ได้superstarคนไทยที่ดังมากๆในเอเชีย คือ นิชคุณ 2pm มาเล่นเป็นพระเอกให้

ซึ่งในmvตัวนี้จะบอกเล่าในมุมของผู้ชายที่เสียหญิงสาวคนรักไป แต่ก็ยังคงทำใจไม่ได้และ

คิดถึงแต่เรื่องราวที่เคยทำร่วมกันเธอคนนั้น ในmvนี้จะมี 2ส่วน คือ ส่วนอดีต ซึ่งจะเน้นใช้

ไฟที่ส่องให้เห็นหน้าทั้งหมดและมีการย้อมสี(แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่าน่าจะใช้filter cosmetic

กับfilterที่เป็นสีส้มร่วมด้วย) ทำให้ภาพดูละมุนละมัย ตัวละครดูมีความสุขมากๆ 

ฉากทั้งหมดเกิดขึ้นในห้องที่มีโต๊ะอาหาร บรรยากาศมืดๆ และยังมีการใช้แสงเทียนทำให้

ตัวเราเข้าใจว่านี่คือช่วงเวลาอาหารค่ำของทั้งคู่ ในpartอดีตจะเน้นใช้มุมกล้องแบบ

medium shot เพราะจะทำให้เห็นกิจกรรมที่คู่รักคู่นี้ทำด้วยกันในอดีต เช่น การเต้นรำด้วยกัน

แต่ในpartที่เป็นปัจจุบัน มีการจัดแสงให้แสงมันเข้ามาจากด้านเดียว อีกด้านจะมืดไปเลย

แสดงถึงคนที่มีการจมอยู่กับอะไรบางอย่าง ไม่สามารถเปิดเผยความรู้สึกทั้งหมดได้

เน้นใช้มุมกล้องแบบclose up และมีการถ่ายinsertสิ่งของเยอะมาก เพื่อให้เห็นรายละเอียด

ของสิ่งต่างๆ เช่น ถ่ายinsert เข็มของเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่กำลังทำงานอยู่ , insertเข็มนาฬิกา

สร้อยที่ร่วงลงกระทบกับพื้นเป็นต้น มีการทำภาพในหลายๆตอนให้มันslowลง เราคิดเอาเอง

ว่าเพื่อจะย้ำให้เราเห็นได้ชัดขึ้นว่าตอนที่slowนั้นมันทำให้ฝ่ายชายเจ็บปวดมาก

ในเรื่องของsound เราชอบมาก เพราะในmvนี้ไม่มีบทพูดเลย แต่มันกลับเศร้ามากๆเพราะ

soundที่เก็บมา จะเป็นเสียงของพวกสิ่งที่เราไม่ค่อยใส่ใจเสียงของมัน เช่น ตอนที่สร้อยตก

เสียงสร้อยที่กระทบกับพื้นแล้วเด้งขึ้นมาและตกลงสู่พื้นอีกครั้ง หรือตอนที่เข็มวินาทีของ

นาฬิกาค่อยๆเดิน เสียงทุกอย่างมันดังก้องๆ ดูยิ่งใหญ่ น่าจะสื่อว่าตอนนั้นเป็นฉากสำคัญ 

เป็นตอนที่สำคัญของตัวละคร ซึ่งที่มันดูเศร้ามากสำหรับเราเพราะการที่คนเราได้ยินเสียง

ที่ปกติไม่ได้ใส่ใจ แสดงว่ามันต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราได้ยินและจำเสียงนั้นได้ชัดเจน

ในที่นี้ก็คือการที่โดนบอกเลิกนั่นเอง

ตัวเราเองชอบฉากที่มีนกพิราบสีขาวบินผ่าน แล้วพระเอกค่อยๆมองตามมากๆ มันเป็น

ภาพslowที่ปีกของนกค่อยๆขยับทีละstep แม้มันจะดูไม่เนียนเพราะใช้นกพิราบgraphic 

และสายตาพระเอกที่ต้องมองตามนกที่บินผ่านมันไม่ตรงกัน แต่เราก็ชอบฉากนี้มากๆ

ตอนจบของmvนี้ จะเป็นพระเอกขว้างกรอบรูปของตัวเองที่ถ่ายคู่กับแฟนสาวกระแทกกับนาฬิกา

ทำให้นาฬิกาแตกและร่วงลงพื้น ฉากดังกล่าวมีท่อนจบของเพลงที่ร้องว่า“ฉันไม่มีวันจะหยุดรักเธอ

ได้เลย” มาประกอบด้วย ทำให้วิเคราะห์ได้ว่าเวลา(นาฬิกา)ของชายหนุ่มนั้นถูกทำลายโดย

หญิงสาวไปแล้ว เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร ชายหนุ่มก็ไม่มีวันหยุดรักหญิงสาวได้เลย

/American History X/

/American History x/

เป็นเรื่องที่บอกเล่าผ่านบันทึกของน้องชายตัวเอกที่เขียนเกี่ยวกับพี่ชายที่เป็นพวกคลั่งneo-nazi 
และเกลียดคนผิวสีสุด เขาพยายามยัดเยียดความคิดผิดๆให้กับน้องชาย ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วย
กับเขาก็จะกลายเป็นศัตรูของเขาหมด จนวันนึงเขาก็ได้ทำการฆ่าคนผิวสีกลุ่มนึงและโดนจับกุม
เข้าไปอยู่ในเรือนจำแห่งนึง ในเรือนจำนั้นเขาได้ทำงานร่วมกับชายผิวสีคนนึง และเขาก็ได้พบกับ
กลุ่มคนที่มีอุดมการณ์เดียวกับเขา คือ พวกneo-nazi ซึ่งสิ่งที่เขาเจอในคุกทำให้ความคิดของเขา
เปลี่ยนไป เมื่อเขาออกจากคุกมาก็พยายามพาตัวเองและคนรอบตัวคนอื่นๆออกจากกลุ่มคนที่มี
ความคิดสุดโต่งนี้ แต่เขาก็กลายเป็นศัตรูกับกลุ่มคนพวกนั้น ตอนสุดท้ายเขาและครอบครัวก็เริ่ม
มีชีวิตที่ปกติสุขขึ้น แล้ววันนึงน้องชายของเขาก็ถูกยิงตายที่ห้องน้ำโรงเรียนโดยฝีมือคนผิวสีที่
ต้องการแก้แค้นพวกเขา

เรื่องนี้ผู้กำกับ Tony Kaye ทำออกมาได้ดิบเถื่อน เน้นใช้medium shotเพื่อให้เห็นถึงอารมณ์
ของตัวแสดงที่กระทำต่อคนอื่น หรือกระทำต่อสิ่งของ เช่น ฉากที่พี่ชายโดนกระทำในห้องน้ำใน
คุก ฉากนั้นถ่ายให้เห็นเฉพาะช่วงศีรษะถึงเอวของตัวละครและใช้actingเข้ามาประกอบ 
ก็สามารถทำให้เราเข้าใจได้ว่าเขากำลังมีอะไรกัน และ close up shot เพื่อเก็บอารมณ์ที่ตัวละคร
แสดงออกทางสีหน้า แววตา เช่น ฉากที่พระเอกเอาปืนยิงหัวคนผิวสีแล้วน้องชายมาเห็นเข้า 
เราเห็นอารมณ์ของน้องชายว่าทั้งอึ้ง ตะลึง ตกใจ สับสนโดยที่ไม่มีบทพูดเลย

ฉากที่เราชอบเป็นพิเศษมีอยู่ 2 ฉาก ก็คือฉากที่พระเอกโดนกระทำเสร็จแล้วก็ล้มลงกับพื้นห้องน้ำ
และกล้องก็ตัดให้เห็นส่วนหัวที่มีเลือดไหลออกมา และก็ตัดภาพไปที่กล้องวงจรปิด ซึ่งในกล้อง
วงจรปิดเราก็จะเห็นว่ามีเลือดไหลออกมาจากหัวและจากก้น ซึ่งเป็นการเก็บรายละเอียดเพืิ่อย้ำว่า
พระเอกถูกชายคนเมื่อกี้กระทำจริงๆ อีกฉากคือฉากที่พี่ชายได้รับการปล่อยตัวออกจากคุกและ
เดินไปหาชายผิวสีที่ทำงานมาด้วยกัน เพื่อขอบคุณที่เขาช่วยไม่ให้โดนกลุ่มคนผิวสีในคุกกระทืบ
โดยที่ในหนังไม่ได้ถ่ายทำตอนที่ชายคนนี้ไปบอกกับคนอื่นๆ แต่ก็เฉลยให้คนดูหายสงสัยด้วย
อาการตัวละครที่แสดงออกมา